GreenVCI : การกัดกร่อนแบบหลุม (Pitting Corrosion)

การกัดกร่อนแบบหลุม (Pitting Corrosion)

การกัดกร่อนแบบหลุม (pitting corrosion) เป็นรูปแบบหนึ่งของการกัดกร่อนที่ เฉพาะจุดมาก ซึ่งมักเกิดบนโลหะ แล้วสร้างหลุม หรือรูเล็ก ๆ บนพื้นผิว ถึงแม้พื้นผิวนอกอาจดูปกติอยู่ แต่ภายในมีความเสียหายลุกลามได้อย่างรวดเร็ว แตกต่างจากการกัดกร่อนแบบทั่วไป (uniform corrosion) ที่เกิดทั่วทั้งพื้นผิว การกัดกร่อนแบบหลุมนี้จะยากตรวจจับและอันตรายมากกว่า


นิยามของ Pitting Corrosion

  • Pitting corrosion คือ การกัดกร่อนโลหะในจุดเล็กๆ โดยทำให้เกิดหลุมหรือรูบนผิวโลหะ ซึ่งอาจแทรกซึมลงไปลึกภายในวัสดุ
  • มักเกิดกับโลหะที่เรียกว่า passive metals (โลหะที่มีชั้นออกไซด์ปกป้องตัวเอง เช่น สเตนเลส, อลูมิเนียม) โดยเมื่อชั้นป้องกันถูกทำลายหรือถูกกัดกร่อน มันจะกลายเป็นจุดอ่อนให้เกิดหลุมขึ้น
  • จุดที่ถูกกัดกร่อนอาจดูเล็กน้อย แต่ในเนื้อโลหะภายในอาจถูกกัดกร่อนได้อย่างมากโดยไม่รู้ตัว

🔍 สาเหตุของ Pitting Corrosion

มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดและเร่งการกัดกร่อนแบบหลุม ได้แก่

  • ไอออนคลอไรด์ (Chloride ions) — มักพบในน้ำทะเล หรือสภาพแวดล้อมที่มีเกลือสูง ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าไปทำลายชั้นป้องกันออกไซด์ได้
  • สภาพเป็นกรดหรือค่าพีเอชต่ำ (Acidic environment) — เมื่อโลหะอยู่ในสภาพที่มีความเป็นกรดสูง จะเร่งการกัดกร่อนแบบเฉพาะจุด
  • พื้นที่ที่มีออกซิเจนจำกัด (Oxygen depletion) — เช่นในซอกหรือใต้ชั้นฟิล์มที่ถูกปิด ทำให้เกิดภาวะที่จุดนั้นเป็นขั้วบวก (anode) และเริ่มกัดกร่อน
  • อุณหภูมิที่สูง (Higher temperatures) — ทำให้ปฏิกิริยาเคมีและการเคลื่อนที่ของไอออนเร็วขึ้น
  • รอยร้าว ขีดข่วน หรือข้อบกพร่องบนพื้นผิวโลหะ (Surface defects) — จุดเหล่านี้ทำให้ชั้นป้องกันแตก และเป็นจุดเริ่มของการกัดกร่อนแบบหลุม

🧨 ผลกระทบของ Pitting Corrosion

เมื่อเกิดขึ้น ผลกระทบอาจร้ายแรง ดังนี้

  • ความแข็งแรงของโครงสร้างลดลง เพราะหลุมแม้เล็ก ๆ แต่ลึกลงในโลหะ อาจทำให้เกิดการรั่วไหล หรือแตกหัก
  • อายุการใช้งานของชิ้นส่วนโลหะสั้นลง เพราะถูกกัดกร่อนภายในอย่างรวดเร็ว
  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม เช่น น้ำมัน / ก๊าซ, อากาศยาน หรือโครงสร้างพื้นฐาน
  • ต้นทุนซ่อมบำรุงและเปลี่ยนชิ้นส่วนสูงขึ้น เพราะอาการไม่ปรากฏชัดเจนก่อนจนเกิดความเสียหายมากแล้ว

🛡️ การป้องกันด้วยเทคโนโลยี VCI

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพ คือ การใช้เทคโนโลยี VCI (Volatile Corrosion Inhibitor) ซึ่งสารนี้จะระเหยและสร้างชั้นฟิล์มบางๆ บนพื้นผิวโลหะ เพื่อยับยั้งการกัดกร่อนแบบหลุม

  • สาร VCI จะปล่อยโมเลกุลระเหยออกมาในอากาศ และเคลื่อนที่ไปเกาะบนโลหะที่อาจถูกกัดกร่อน
  • ช่วยป้องกันตัวแปรที่กระตุ้น pitting เช่น ความชื้น, คลอไรด์, ออกซิเจน

ข้อดีของการใช้ VCI จาก GreenVCI ได้แก่:

  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (eco-friendly) เพราะบางสูตรไม่มีพิษ
  • ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะกับอุตสาหกรรมที่ใช้โลหะหลายชนิด
  • ลดต้นทุนระยะยาว เพราะช่วยลดการซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน

📝 สรุป

การกัดกร่อนแบบหลุม (pitting corrosion) เป็น “ศัตรูเงียบ” ของโลหะ เพราะอาจเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และทำลายส่วนลึกของวัสดุในจุดเล็กๆ ที่มองไม่เห็นได้ง่าย แต่หากเราเข้าใจสาเหตุ และเริ่มป้องกันตั้งแต่ต้น ด้วยวิธีเช่น VCI ก็จะลดความเสี่ยงและเพิ่มอายุการใช้งานของชิ้นส่วนโลหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิงข้อมูลจาก https://greenvci.com/pitting-corrosion/

GreenVCI : Erosion Corrosion คืออะไร

Erosion Corrosion คืออะไร

🔍 Erosion Corrosion คืออะไร

Erosion Corrosion คือ การกัดกร่อนจากการกัดเซาะ เป็นการเสื่อมสภาพของโลหะอย่างรวดเร็ว เกิดจากการทำงานร่วมกันของของ “แรงเสียดสีทางกล” และ “ปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี” ซึ่งทำให้พื้นผิวโลหะที่สัมผัสกับของเหลวหรือสารละลายที่เคลื่อนที่เร็ว โดยเฉพาะในระบบที่ของไหลเคลื่อนที่เร็ว เช่น ท่อ ปั๊ม หรือแลกเปลี่ยนความร้อน ของไหลที่พุ่งแรงจะทำฟิล์มออกไซด์ที่ป้องกันผิวโลหะถูกชะล้างออก พื้นผิวใหม่จึงถูกกัดกร่อนต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อโลหะต่างๆ เช่น เหล็กกล้าคาร์บอน เหล็กกล้าไร้สนิม และโลหะผสมทองแดง โดยทั่วไปแล้วจะเกิดในลักษณะเป็นพื้นผิวที่เรียบ เป็นหลุม หรือเป็นร่อง โดยความเสียหายจะกระจุกตัวอยู่ในบริเวณที่การไหลหยุดชะงัก และสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็วหากไม่ได้รับการควบคุม


⚙️ สาเหตุหลัก

  • ความเร็วของของไหลสูง ทำให้ชั้นป้องกันหลุดออก
  • อนุภาคแขวนลอย เช่น ทรายหรือคราบตะกรัน ขูดผิวโลหะ
  • สารกัดกร่อน เช่น คลอไรด์หรือกรด เพิ่มการกัดกร่อนทางเคมี
  • อุณหภูมิสูง เร่งปฏิกิริยาและเพิ่มความรุนแรง
  • โครงสร้างของระบบ เช่น ท่อข้อศอก วาล์ว หรือใบพัด มีแนวโน้มที่จะเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น

ผลกระทบ

  • ผนังท่อบางลง เสี่ยงต่อการรั่วหรือแตก
  • ประสิทธิภาพเครื่องจักรลดลง เช่น ปั๊มและเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน
  • อันตรายต่อความปลอดภัย — เสี่ยงการรั่วไหลหรือระเบิด
  • ต้นทุนบำรุงรักษาเพิ่มขึ้นจากการซ่อมและหยุดผลิต
  • ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากของไหลรั่วไหล

🛡️ การป้องกันด้วยเทคโนโลยี VCI

VCI (Volatile Corrosion Inhibitor) คือสารที่ระเหยได้ซึ่งสร้างฟิล์มบางป้องกันการกัดกร่อนบนผิวโลหะ เหมาะสำหรับช่วงเก็บรักษา ขนส่ง หรือช่วงหยุดเครื่อง

GreenVCI พัฒนาสูตรสาร VCI ตั้งแต่ปี 1994 โดยใช้วัตถุดิบจากพืช ปลอดสารไนไตรต์ที่เป็นพิษ และย่อยสลายได้ ใช้ได้กับโลหะหลายชนิดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ข้อดี:

  • ✅ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม — ย่อยสลายได้ ไม่เป็นพิษ ได้มาตรฐาน REACH และ food-grade
  • 🔧 ใช้ได้หลากหลาย — ทั้งในอุตสาหกรรมทางทะเล เครื่องจักกลหนัก และก่อสร้าง
  • 💰 ประหยัด — ลดต้นทุนระยะยาวและการบำรุงรักษา

        VCI ช่วยลดการกัดกร่อนหลายรูปแบบพร้อมกัน เช่น การกัดกร่อนแบบสม่ำเสมอ (uniform), การกัดกร่อนแบบรูพรุนหรือรอยแยก (pitting), การกัดกร่อนแบบรอยแยก (crevice) และ การกัดกร่อนแบบกัลวานิก (galvanic corrosion) เป็นการกัดกร่อนที่เกิดจากการสัมผัสกันของวัสดุโลหะสองชนิดซึ่งมีศักย์ไฟฟ้าแตกต่างกัน

(ลักษณะการกัดกร่อนในรูปแบบต่างๆ)


🧩 บทสรุป

การกัดกร่อนจากการกัดเซาะ (Erosion corrosion ) จำเป็นต้องอาศัยความระมัดระวัง เนื่องจากการกัดกร่อนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเกิดจากกระบวนการไหล แต่การทำความเข้าใจถึงปัจจัยกระตุ้นและผลกระทบ จะนำไปสู่การป้องกันที่ดีได้ เลือกใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีการผลิต VCI ของ GreenVCI เพื่อการปกป้องการกัดกร่อน และมุ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานของคุณยังคงทนทานต่อการกัดกร่อน

อ้างอิงข้อมูลจาก https://greenvci.com/erosion-corrosion

GreenVCI : เทคโนโลยี VCI กำเนิดจากสงคราม สู่การอนุรักษ์อุตสาหกรรม


Built for Warzones, Engineered for Preservation

The origin of VCI technology traces back to World War II, when the U.S. military faced massive corrosion losses during overseas transport of naval equipment. This challenge led to the development of the first nitrite-based VCI products, applied to kraft paper, cloth, and cardboard to protect metal assets during shipment and storage. These early innovations laid the foundation for the global VCI industry.

Today, the U.S. Department of Defense (DoD) MIL-SPEC standards remain the benchmark for corrosion protection and are applied across a wide range of military-grade VCI packaging materials.

Continue reading GreenVCI : เทคโนโลยี VCI กำเนิดจากสงคราม สู่การอนุรักษ์อุตสาหกรรม

GreenVCI : Can Trust, It Can’t Rust

เพราะไอน้ำ…กลายเป็นเกราะป้องกันสนิมได้จริง

ในการจัดเก็บหรือขนส่งชิ้นส่วนโลหะ เช่น แบริ่ง (bearing), ชิ้นส่วนเครื่องจักร หรือชิ้นส่วนรถยนต์ การป้องกันสนิมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในสภาวะที่มีโอกาสเกิด “Container Rain” หรือฝนในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นเมื่อมีความต่างของอุณหภูมิระหว่างภายในและภายนอกตู้เรือ ส่งผลให้เกิดการควบแน่น (condensation) กลายเป็นหยดน้ำบนพื้นผิวของโลหะ

Continue reading GreenVCI : Can Trust, It Can’t Rust

GreenVCI : VCI จะปกป้องได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อปิดคลุมมิดชิด

VCI จะปกป้องได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อปิดคลุมมิดชิด

การใช้แผ่นชีทหรือถุง VCI (Volatile Corrosion Inhibitor) เพื่อป้องกันสนิมนั้น หลักการทำงานคือ สาร VCI จะระเหยออกมาเป็นไอ แล้วกระจายไปเคลือบผิวโลหะ ทำให้ชิ้นงานไม่สัมผัสกับความชื้นและอากาศโดยตรง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้อง “ปิดคลุมให้มิดชิด”


หากคลุมเพียงบางส่วนหรือปล่อยให้มีช่องว่าง อากาศจากภายนอกจะไหลเข้าออกตลอดเวลา สาร VCI ที่ระเหยออกมาก็จะกระจายออกไป ทำให้การป้องกันสนิมไม่ต่อเนื่อง โลหะจึงยังเสี่ยงต่อการเกิดสนิมได้ ดังที่เห็นในภาพตัวอย่างแรก

ในทางตรงกันข้าม หากปิดคลุมอย่างถูกวิธี เช่น ใช้ถุง VCI แบบทรงสี่เหลี่ยมคลุมพาเลทจนมิดชิด และเสริมด้วยการแทรกกระดาษ VCI ระหว่างชั้นของชิ้นงาน สาร VCI จะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ กระจายตัวทั่วทั้งบรรจุภัณฑ์ และปกป้องโลหะทุกชิ้นได้อย่างมั่นใจตลอดระยะเวลาการจัดเก็บและขนส่ง

GreenVCI : ถุงพลาสติกกันสนิม กับการใช้งานเครื่องสูญญากาศ 

ถุงพลาสติกกันสนิม หรือ VCI Bag (Volatile Corrosion Inhibitor) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการเกิดสนิมบนผิวโลหะ โดยสาร VCI ที่อยู่ในเนื้อถุงจะค่อย ๆ ระเหยออกมาเคลือบผิวชิ้นงาน ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันไม่ให้ออกซิเจนและความชื้นสัมผัสกับโลหะโดยตรง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันกันสนิม และไม่ต้องเสียเวลาเช็ดทำความสะอาดก่อนนำชิ้นงานไปใช้งานต่อ

Continue reading GreenVCI : ถุงพลาสติกกันสนิม กับการใช้งานเครื่องสูญญากาศ 

GreenVCI : ทดลองประสิทธิภาพสารกันสนิมแบบลอกได้(GVL400) EP.1

GVL400 เป็นสารเคลือบกันสนิมแบบน้ำสูตรน้ำ ปลอดภัย ปราศจากสารไนไตรท์และแอมมีน ไม่ติดไฟ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถเคลือบโลหะได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก เหล็กหล่อ สแตนเลส อะลูมิเนียม ทองแดง ทองเหลือง หรือผิวชุบสังกะสี

GVL400 ไม่ใช่แค่การปกป้อง แต่คือความมั่นใจ ว่าชิ้นส่วนของคุณจะถึงจุดหมายโดยปราศจากสนิม พร้อมใช้งานทันที

ติดต่อเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และเลือกโซลูชันที่เหมาะกับคุณ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

บริษัท กรีนวีซีไอ (ประเทศไทย)จำกัด

คุณเจษฎา (เจษ)
Mobile: 081-042-4988
LINE ID: @greenvci (มี @ ด้วยนะครับ)
Email: sales@greenvci.co.th
https://www.greenvci.co.th
@greenvci

GreenVCI : 5 ขั้นตอนที่จะทำให้พลาสติกกันสนิมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ


พลาสติกกันสนิม VCI คือหนึ่งในวิธีการปกป้องโลหะจากการกัดกร่อนที่ได้รับความนิยมสูงในอุตสาหกรรม

แต่รู้ไหมว่าาการใช้งานอย่างถูกวิธีคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้มันได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
บริษัท กรีนวีซีไอ (ประเทศไทย)จำกัด

คุณเจษฎา (เจษ)
Mobile: 081-042-4988
LINE ID: @greenvci (มี @ ด้วยนะครับ)
Email: sales@greenvci.co.th
https://www.greenvci.co.th
@greenvci

GreenVCI : การเก็บรักษาม้วนเหล็กคอยล์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความเสียหายและสนิม

การเก็บรักษาม้วนเหล็กคอยล์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความเสียหายและสนิม

ม้วนเหล็กคอยล์ (Steel Coil) เป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ ซึ่งถูกนำไปใช้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า และงานโครงสร้างต่าง ๆ จุดสำคัญที่ผู้ผลิตและผู้ใช้งานต้องให้ความใส่ใจ คือ การจัดเก็บและป้องกันการเกิดสนิม เพราะหากม้วนเหล็กคอยล์เกิดการกัดกร่อน จะสร้างความเสียหายทั้งในด้านคุณภาพและต้นทุนการผลิต

Continue reading GreenVCI : การเก็บรักษาม้วนเหล็กคอยล์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความเสียหายและสนิม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save