GreenVCI : Stress Corrosion Cracking

Stress Corrosion Cracking (SCC) คืออะไร

Stress Corrosion Cracking (SCC) คือ กระบวนการที่โลหะ (โดยเฉพาะโลหะผสมที่ไวต่อปัญหานี้) เกิด รอยร้าวเล็ก ๆ แล้วแผ่ขยาย เข้าไปภายในเนื้อโลหะ เมื่อโลหะนั้นได้รับแรงดึง (tensile stress) พร้อมกับถูกแช่หรือสัมผัสกับสารเคมี / สภาพแวดล้อมกัดกร่อนบางอย่างพร้อมกัน

  • รอยร้าวอาจแทรกผ่าน “ขอบเกรน” (intergranular) หรือลัดผ่าน “เนื้อเกรน” (transgranular) ก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดโลหะและเงื่อนไขต่าง ๆ
  • จุดที่สำคัญ : โลหะอาจดูภายนอก “ปกติ” ไม่มีสนิมหรือผุกร่อนชัดเจน แต่ภายในอาจมีรอยร้าวลึกที่พร้อมจะแตกหักโดยไม่แจ้งสัญญาณเตือนชัดเจนก่อนหน้า

สั้น ๆ คือ SCC เป็น “ศัตรูเงียบ” โลหะอาจดูดี แต่ภายในอาจแตกร้าวจนพังโดยไม่รู้ตัว

Read More

GreenVCI : ความหนาของแผ่นฟิล์ม VCI สำคัญอย่างไร?

vci film thickness

ความหนาของแผ่นฟิล์ม VCI สำคัญอย่างไร?

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ แผ่นฟิล์ม VCI กันก่อนนะ

  • VCI (Volatile Corrosion Inhibitor) คือ สารยับยั้งการกัดกร่อนแบบระเหย
  • แผ่นฟิล์ม VCI คือ พลาสติกห่อหุ้มที่ถูกผสมสารพิเศษ ที่จะปล่อยไอระเหยออกมาเคลือบผิวโลหะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสนิม หรือการกัดกร่อนระหว่างการขนส่ง หรือการจัดเก็บ (คล้ายกับการสร้างเกราะป้องกันที่มองไม่เห็นให้ชิ้นส่วนโลหะ)

💡 ทำไมความหนาถึงสำคัญ?

ความหนาของแผ่นฟิล์ม VCI ไม่ได้แค่ทำให้ฟิล์มเหนียวขึ้นเท่านั้น แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนด ประสิทธิภาพ และ ความเหมาะสม ในการใช้งาน:

  1. ความทนทาน : ฟิล์มที่หนาขึ้นจะมีความทนทานต่อการฉีกขาดหรือทะลุได้ดีกว่า เหมาะสำหรับห่อหุ้มสินค้าที่มีน้ำหนักมากหรือมีขอบคม
  2. ระยะเวลาการป้องกัน : โดยทั่วไป ฟิล์มที่หนาขึ้นจะสามารถให้การป้องกันสนิมได้ยาวนานขึ้น และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงได้ดีกว่า
  3. ความคุ้มค่า : การเลือกความหนาที่เหมาะสมจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ โดยไม่ต้องใช้ฟิล์มที่หนาเกินความจำเป็น

ข้อสังเกตุ

  • ถ้าฟิล์มบางเกินไป อาจ ปล่อยสาร VCI น้อย หรือ เป็นเกราะกั้นความชื้น/อากาศ ได้น้อย ทำให้โอกาสที่โลหะจะโดนสนิมสูงขึ้น
  • ถ้าฟิล์มหนาเกินไป แม้จะให้การป้องกันได้สูงขึ้น แต่ก็อาจ เพิ่มต้นทุนวัสดุ, น้ำหนัก หรืออาจมีผลต่อการใช้งาน เช่น ม้วนยากขึ้น หรือบางทีไม่ได้เหมาะกับงานบางประเภท

ช่วงความหนาที่ใช้บ่อยและเหมาะกับงานแบบไหน

  • 10-30 µm : เหมาะกับงานที่ต้องการเบา ใช้วัสดุน้อย หรือเป็นงานที่อาจเปลี่ยนบ่อย หรือสภาพแวดล้อมไม่แย่มาก
  • 70-90 µm : เหมาะกับงานที่มีความต้องการ “ปกป้องมากขึ้น” เช่น งานเก็บระยะกลาง, สภาพแวดล้อมอาจมีความชื้น/อากาศเข้าถึงได้มากกว่า
  • 100+ µm : เหมาะกับงานหนัก งานเก็บระยะยาว หรืองานที่โลหะมีมูลค่าสูงหรือเสียหายได้มากหากเกิดสนิม

ข้อแนะนำ/สรุป

  • เลือกความหนาของ VCI ฟิล์ม ให้เหมาะกับงาน: ต้องดูว่าโลหะนั้นจะเก็บ/ขนย้าย/ใช้งานนานแค่ไหน, สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร (มีความชื้น / อากาศ / การขนส่งมากหรือน้อย)
  • ควรดู “คำแนะนำจากผู้ผลิต” เป็นหลัก เพราะผู้ผลิตจะรู้สูตร VCI, วัสดุฟิล์ม, เงื่อนไขการใช้งาน
  • ควรมีการ “ตรวจวัด/ทดสอบ” บ้างว่า ฟิล์มที่ใช้จริง ให้การปกป้องได้ตามที่ต้องการหรือไม่
  • อย่าคิดว่าเลือกความหนามากที่สุดแล้วจะดีที่สุดเสมอไป — อาจจะเกินความจำเป็น หรือเพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น

อ้างอิงข้อมูลจาก https://greenvci.com/vci-film-thickness/

GreenVCI : มือใหม่หัดขาย

GreenVCI บรรจุภัณฑ์ป้องกันสนิม

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาคุยกันแบบง่ายๆ เลย สำหรับใครที่เป็น “มือใหม่หัดขาย” แล้วอยากรู้ว่า GreenVCI คืออะไร? ใช้ทำอะไร? แล้วมันดียังไง ทำไมหลายโรงงานถึงเลือกใช้กันเพียบ! มาดูกันเลยค่ะ 👇

🟢 GreenVCI คืออะไร?

GreenVCI คือ บรรจุภัณฑ์ป้องกันสนิม ที่ใช้เทคโนโลยี VCI – Vapor Corrosion Inhibitor พูดง่าย ๆ คือมันเป็นวัสดุที่ ปล่อยโมเลกุลป้องกันสนิมออกมาเคลือบผิวโลหะแบบมองไม่เห็น ช่วยป้องกันสนิมโดยที่ไม่ต้องทาน้ำมัน ไม่ต้องล้างหลังเปิดใช้งาน สะอาดและประหยัดแรงมาก ๆ

💚 ทำไมต้อง GreenVCI?

✔ ใช้งานง่าย: ห่อหรือใส่สินค้าโลหะลงไป… จบ! ไม่ต้องขั้นตอนยุ่งยาก
✔ ป้องกันสนิมได้จริง: ทั้งเหล็ก อลูมิเนียม ทองแดง อะไหล่ เครื่องจักร เครื่องมือ
✔ รักษ์โลกกว่า: เป็น VCI แบบ Green ปลอดภัยกว่า ลดสารเคมี ฟู้ดเกรดบางรุ่นก็มี
✔ ลดต้นทุน: ไม่ต้องทาน้ำมันกันสนิม ลดแรงงาน ลดของเสียหลังขนส่ง
✔ เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรมทุกแบบ: รถยนต์ ชิ้นส่วนเครื่องจักร โลจิสติกส์ งานส่งออก ฯลฯ

Effective Storage of Steel Coils_1
เทคโนโลยี VCI กำเนิดจากสงคราม สู่การอนุรักษ์อุตสาหกรรม

📦 GreenVCI มีอะไรให้เลือกบ้าง?

อันนี้เลือกตามงานได้เลย

🔹 ถุง VCI – เหมาะกับอะไหล่ ขนาดเล็ก จนถึงชิ้นใหญ่

Effective Storage of Steel Coils_1

🔹 กระดาษ VCI – น้ำหนักเบา ใช้รอง ใช้ห่อ ใช้แทรกได้

VCI Paper-82gsm

🔹 แผ่นฟิล์ม/ม้วน VCI – ใช้ห่อสินค้าเป็นชุด ๆ

พลาสติกกันสนิม#สีชมพู

🔹 แผ่นดูดความชื้น + VCI ควบคู่ – กันชื้น + กันสนิม ครบสูตร
พูดง่าย ๆ คือ ถ้าเป็นงานโลหะ GreenVCI ดูแลให้ได้เกือบทุกอย่างเลย

VCI Desiccant Solution for Enging Preservation Air Force Engine

🚀 เหมาะกับใคร?

  • โรงงานผลิตชิ้นส่วนโลหะ
  • อะไหล่รถยนต์
  • โรงกลึง/โรงกลึง CNC
  • โรงงานส่งออกชิ้นส่วน
  • ร้านค้าเครื่องมือช่าง
    ใครที่ต้องขนส่ง เก็บสต๊อก หรือผลิตอะไหล่โลหะ… ใช้แล้ว “ปัญหาสนิมลดลงแบบเห็นได้ชัด”

🙋‍♂️ สรุป

จำไว้แค่ 3 ข้อนี้ได้เลย 👇

  1. ป้องกันสนิมแบบไม่ต้องทาน้ำมัน
  2. สะอาด ใช้ง่าย ประหยัดต้นทุน
  3. ปลอดภัยกว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แค่นี้ลูกค้าก็เริ่มสนใจแล้วค่ะ 👍

How-to-Protect-Postman-during-COVID-Pandemic-10
How-to-Protect-Postman-during-COVID-Pandemic-10

GreenVCI : การกัดกร่อนแบบหลุม (Pitting Corrosion)

การกัดกร่อนแบบหลุม (Pitting Corrosion)

การกัดกร่อนแบบหลุม (pitting corrosion) เป็นรูปแบบหนึ่งของการกัดกร่อนที่ เฉพาะจุดมาก ซึ่งมักเกิดบนโลหะ แล้วสร้างหลุม หรือรูเล็ก ๆ บนพื้นผิว ถึงแม้พื้นผิวนอกอาจดูปกติอยู่ แต่ภายในมีความเสียหายลุกลามได้อย่างรวดเร็ว แตกต่างจากการกัดกร่อนแบบทั่วไป (uniform corrosion) ที่เกิดทั่วทั้งพื้นผิว การกัดกร่อนแบบหลุมนี้จะยากตรวจจับและอันตรายมากกว่า


นิยามของ Pitting Corrosion

  • Pitting corrosion คือ การกัดกร่อนโลหะในจุดเล็กๆ โดยทำให้เกิดหลุมหรือรูบนผิวโลหะ ซึ่งอาจแทรกซึมลงไปลึกภายในวัสดุ
  • มักเกิดกับโลหะที่เรียกว่า passive metals (โลหะที่มีชั้นออกไซด์ปกป้องตัวเอง เช่น สเตนเลส, อลูมิเนียม) โดยเมื่อชั้นป้องกันถูกทำลายหรือถูกกัดกร่อน มันจะกลายเป็นจุดอ่อนให้เกิดหลุมขึ้น
  • จุดที่ถูกกัดกร่อนอาจดูเล็กน้อย แต่ในเนื้อโลหะภายในอาจถูกกัดกร่อนได้อย่างมากโดยไม่รู้ตัว

🔍 สาเหตุของ Pitting Corrosion

มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดและเร่งการกัดกร่อนแบบหลุม ได้แก่

  • ไอออนคลอไรด์ (Chloride ions) — มักพบในน้ำทะเล หรือสภาพแวดล้อมที่มีเกลือสูง ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าไปทำลายชั้นป้องกันออกไซด์ได้
  • สภาพเป็นกรดหรือค่าพีเอชต่ำ (Acidic environment) — เมื่อโลหะอยู่ในสภาพที่มีความเป็นกรดสูง จะเร่งการกัดกร่อนแบบเฉพาะจุด
  • พื้นที่ที่มีออกซิเจนจำกัด (Oxygen depletion) — เช่นในซอกหรือใต้ชั้นฟิล์มที่ถูกปิด ทำให้เกิดภาวะที่จุดนั้นเป็นขั้วบวก (anode) และเริ่มกัดกร่อน
  • อุณหภูมิที่สูง (Higher temperatures) — ทำให้ปฏิกิริยาเคมีและการเคลื่อนที่ของไอออนเร็วขึ้น
  • รอยร้าว ขีดข่วน หรือข้อบกพร่องบนพื้นผิวโลหะ (Surface defects) — จุดเหล่านี้ทำให้ชั้นป้องกันแตก และเป็นจุดเริ่มของการกัดกร่อนแบบหลุม

🧨 ผลกระทบของ Pitting Corrosion

เมื่อเกิดขึ้น ผลกระทบอาจร้ายแรง ดังนี้

  • ความแข็งแรงของโครงสร้างลดลง เพราะหลุมแม้เล็ก ๆ แต่ลึกลงในโลหะ อาจทำให้เกิดการรั่วไหล หรือแตกหัก
  • อายุการใช้งานของชิ้นส่วนโลหะสั้นลง เพราะถูกกัดกร่อนภายในอย่างรวดเร็ว
  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม เช่น น้ำมัน / ก๊าซ, อากาศยาน หรือโครงสร้างพื้นฐาน
  • ต้นทุนซ่อมบำรุงและเปลี่ยนชิ้นส่วนสูงขึ้น เพราะอาการไม่ปรากฏชัดเจนก่อนจนเกิดความเสียหายมากแล้ว

🛡️ การป้องกันด้วยเทคโนโลยี VCI

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพ คือ การใช้เทคโนโลยี VCI (Volatile Corrosion Inhibitor) ซึ่งสารนี้จะระเหยและสร้างชั้นฟิล์มบางๆ บนพื้นผิวโลหะ เพื่อยับยั้งการกัดกร่อนแบบหลุม

  • สาร VCI จะปล่อยโมเลกุลระเหยออกมาในอากาศ และเคลื่อนที่ไปเกาะบนโลหะที่อาจถูกกัดกร่อน
  • ช่วยป้องกันตัวแปรที่กระตุ้น pitting เช่น ความชื้น, คลอไรด์, ออกซิเจน

ข้อดีของการใช้ VCI จาก GreenVCI ได้แก่:

  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (eco-friendly) เพราะบางสูตรไม่มีพิษ
  • ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะกับอุตสาหกรรมที่ใช้โลหะหลายชนิด
  • ลดต้นทุนระยะยาว เพราะช่วยลดการซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน

📝 สรุป

การกัดกร่อนแบบหลุม (pitting corrosion) เป็น “ศัตรูเงียบ” ของโลหะ เพราะอาจเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และทำลายส่วนลึกของวัสดุในจุดเล็กๆ ที่มองไม่เห็นได้ง่าย แต่หากเราเข้าใจสาเหตุ และเริ่มป้องกันตั้งแต่ต้น ด้วยวิธีเช่น VCI ก็จะลดความเสี่ยงและเพิ่มอายุการใช้งานของชิ้นส่วนโลหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิงข้อมูลจาก https://greenvci.com/pitting-corrosion/

GreenVCI : การกัดกร่อนแบบรอยแยก (Crevice Corrosion)

การกัดกร่อนแบบรอยแยก (Crevice Corrosion)

การกัดกร่อนแบบรอยแยก (crevice corrosion) คือ รูปแบบหนึ่งของการกัดกร่อนเฉพาะจุด ที่มักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีช่องว่างแคบ หรือซอกที่ถูกปิดทึบ เช่น รอยต่อของชิ้นส่วนโลหะ ฝา ปะเก็น (gasket) หรือบริเวณใต้ชั้นตะกอนต่างๆ ในโลหะ เมื่ออากาศ (ออกซิเจน) เข้าไม่ถึงอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้เกิดสภาวะที่โลหะถูกกัดกร่อนได้เร็วกว่า (ในขณะที่ส่วนที่อยู่ภายนอกยังถูกปกป้องอยู่) ต่างจากการกัดกร่อนแบบทั่วไปที่เกิดทั่วทั้งพื้นผิวโลหะ การกัดกร่อนแบบซอกนั้นจะซ่อนตัวอยู่ในจุดที่มองไม่เห็นได้ง่าย และอาจก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่คาดคิดได้หากไม่ตรวจสอบอย่างดี


1. นิยามของ Crevice Corrosion

  • เป็นการกัดกร่อนเฉพาะจุดที่เกิดภายในซอก ช่องว่าง หรือรอยต่อของโลหะ เช่น ระหว่างชิ้นส่วนที่ประกบกัน ใต้ฝาปิด ใต้ปะเก็น (gasket) หรือที่มีตะกอนสะสม
  • จุดเริ่มต้นมักเล็กมาก (บางครั้งเป็นไมโครเมตร) แต่เมื่อเกิดแล้วอัตราการสูญเสียโลหะอาจสูงมาก
  • พื้นที่ที่มีการไหลของอากาศ (ออกซิเจน) ถูกจำกัด ทำให้เกิดเซลล์การกัดกร่อนแบบต่างศักย์อากาศ (differential aeration cell) จากการสัมผัสกันของวัสดุโลหะสองชนิดที่มีศักย์ไฟฟ้าแตกต่างกัน

2. สาเหตุของ Crevice Corrosion

ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดและเร่งการกัดกร่อนแบบนี้ ได้แก่

  • การเข้าออกของออกซิเจนถูกจำกัด : ช่องแคบหรือซอกที่ถูกปิด ทำให้ออกซิเจนเข้าไม่ถึง ทำให้บริเวณภายในกลายเป็นขั้วบวก (anode) และถูกกัดกร่อน
  • ความชื้นและสิ่งสกปรกสะสม : น้ำ เกลือ หรือสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ที่อยู่ในซอกจะส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาทางไฟฟ้าเคมีได้เร็วขึ้น
  • วัสดุของโลหะ : โลหะที่สร้างชั้นป้องกันตัวเอง (passive film) อย่างสเตนเลส หรืออลูมิเนียม เมื่ออยู่ในซอกที่ออกซิเจนลดลง ชั้นป้องกันอาจสลายตัวได้ง่าย
  • อุณหภูมิสูง : อุณหภูมิที่สูงจะเพิ่มความเร็วของปฏิกิริยาเคมีและการเคลื่อนที่ของไอออนในซอก
  • การออกแบบที่ไม่ดี / รอยต่อ : รอยต่อ แนวประกบ ข้อต่อที่ออกแบบไม่เหมาะสม ทำให้เกิดซอกหรือช่องเล็ก ๆ ที่จับน้ำหรือสิ่งปนเปื้อนได้ง่าย

3. ผลกระทบจาก Crevice Corrosion

ผลกระทบที่เกิดขึ้นได้มีดังนี้

  • โครงสร้างถูกทำลายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในจุดที่ซ่อนอยู่ เช่น ท่อหรือรอยต่อ ทำให้เกิดการรั่ว, แตกร้าว หรือความแข็งแรงลดลง
  • อายุการใช้งานสั้นลง เพราะชิ้นส่วนถูกกัดกร่อนเร็วขึ้น
  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมทะเล, เคมี หรือโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีซอกและรอยต่อจำนวนมาก
  • ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ตรวจสอบเพิ่ม และหยุดการผลิตได้
  • อาจเกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม หากอุปกรณ์รั่วหรือแตกในพื้นที่เสี่ยง

4. การป้องกันด้วยเทคโนโลยี VCI

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพ คือ การใช้เทคโนโลยี VCI (Volatile Corrosion Inhibitor) ซึ่งสารจะระเหยจะแพร่เข้าไปในซอก ช่องว่าง เพื่อสร้างชั้นฟิล์มบางๆ บนพื้นผิวโลหะ ทำให้ช่วยยับยั้งการกัดกร่อนแบบซอก

ข้อได้เปรียบของ VCI ได้แก่

  • ลดต้นทุนซ่อมบำรุงได้ เพราะสามารถป้องกันล่วงหน้า
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (ในกรณีของ GreenVCI) เพราะเน้นสูตรที่ย่อยสลายได้และไม่มีสารอันตราย
  • ใช้ได้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น ยานยนต์ แท่นขุดเจาะกลางทะเล เครื่องจักรกลหนัก เพราะสามารถครอบคลุมซอกที่เข้าถึงยาก

5. สรุป

การกัดกร่อนแบบซอก (crevice corrosion) เป็นภัยเงียบที่มักเกิดในจุดที่มองไม่เห็น และเมื่อเกิดแล้วอาจพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แต่หากเข้าใจสาเหตุและวิธีป้องกันได้อย่างถูกต้อง ก็สามารถลดความเสี่ยงได้อย่างมาก การเลือกใช้เทคโนโลยี VCI ในจุดที่ซอก ช่องว่าง รอยต่อ หรือรอยแยกต่างๆ ถือว่าเป็นการเลือกที่คุ้มค่า เพื่อปกป้องโลหะและยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น

อ้างอิงข้อมูลจาก https://greenvci.com/crevice-corrosion

GreenVCI : Erosion Corrosion คืออะไร

Erosion Corrosion คืออะไร

🔍 Erosion Corrosion คืออะไร

Erosion Corrosion คือ การกัดกร่อนจากการกัดเซาะ เป็นการเสื่อมสภาพของโลหะอย่างรวดเร็ว เกิดจากการทำงานร่วมกันของของ “แรงเสียดสีทางกล” และ “ปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี” ซึ่งทำให้พื้นผิวโลหะที่สัมผัสกับของเหลวหรือสารละลายที่เคลื่อนที่เร็ว โดยเฉพาะในระบบที่ของไหลเคลื่อนที่เร็ว เช่น ท่อ ปั๊ม หรือแลกเปลี่ยนความร้อน ของไหลที่พุ่งแรงจะทำฟิล์มออกไซด์ที่ป้องกันผิวโลหะถูกชะล้างออก พื้นผิวใหม่จึงถูกกัดกร่อนต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อโลหะต่างๆ เช่น เหล็กกล้าคาร์บอน เหล็กกล้าไร้สนิม และโลหะผสมทองแดง โดยทั่วไปแล้วจะเกิดในลักษณะเป็นพื้นผิวที่เรียบ เป็นหลุม หรือเป็นร่อง โดยความเสียหายจะกระจุกตัวอยู่ในบริเวณที่การไหลหยุดชะงัก และสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็วหากไม่ได้รับการควบคุม


⚙️ สาเหตุหลัก

  • ความเร็วของของไหลสูง ทำให้ชั้นป้องกันหลุดออก
  • อนุภาคแขวนลอย เช่น ทรายหรือคราบตะกรัน ขูดผิวโลหะ
  • สารกัดกร่อน เช่น คลอไรด์หรือกรด เพิ่มการกัดกร่อนทางเคมี
  • อุณหภูมิสูง เร่งปฏิกิริยาและเพิ่มความรุนแรง
  • โครงสร้างของระบบ เช่น ท่อข้อศอก วาล์ว หรือใบพัด มีแนวโน้มที่จะเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น

ผลกระทบ

  • ผนังท่อบางลง เสี่ยงต่อการรั่วหรือแตก
  • ประสิทธิภาพเครื่องจักรลดลง เช่น ปั๊มและเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน
  • อันตรายต่อความปลอดภัย — เสี่ยงการรั่วไหลหรือระเบิด
  • ต้นทุนบำรุงรักษาเพิ่มขึ้นจากการซ่อมและหยุดผลิต
  • ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากของไหลรั่วไหล

🛡️ การป้องกันด้วยเทคโนโลยี VCI

VCI (Volatile Corrosion Inhibitor) คือสารที่ระเหยได้ซึ่งสร้างฟิล์มบางป้องกันการกัดกร่อนบนผิวโลหะ เหมาะสำหรับช่วงเก็บรักษา ขนส่ง หรือช่วงหยุดเครื่อง

GreenVCI พัฒนาสูตรสาร VCI ตั้งแต่ปี 1994 โดยใช้วัตถุดิบจากพืช ปลอดสารไนไตรต์ที่เป็นพิษ และย่อยสลายได้ ใช้ได้กับโลหะหลายชนิดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ข้อดี:

  • ✅ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม — ย่อยสลายได้ ไม่เป็นพิษ ได้มาตรฐาน REACH และ food-grade
  • 🔧 ใช้ได้หลากหลาย — ทั้งในอุตสาหกรรมทางทะเล เครื่องจักกลหนัก และก่อสร้าง
  • 💰 ประหยัด — ลดต้นทุนระยะยาวและการบำรุงรักษา

        VCI ช่วยลดการกัดกร่อนหลายรูปแบบพร้อมกัน เช่น การกัดกร่อนแบบสม่ำเสมอ (uniform), การกัดกร่อนแบบรูพรุนหรือรอยแยก (pitting), การกัดกร่อนแบบรอยแยก (crevice) และ การกัดกร่อนแบบกัลวานิก (galvanic corrosion) เป็นการกัดกร่อนที่เกิดจากการสัมผัสกันของวัสดุโลหะสองชนิดซึ่งมีศักย์ไฟฟ้าแตกต่างกัน

(ลักษณะการกัดกร่อนในรูปแบบต่างๆ)


🧩 บทสรุป

การกัดกร่อนจากการกัดเซาะ (Erosion corrosion ) จำเป็นต้องอาศัยความระมัดระวัง เนื่องจากการกัดกร่อนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเกิดจากกระบวนการไหล แต่การทำความเข้าใจถึงปัจจัยกระตุ้นและผลกระทบ จะนำไปสู่การป้องกันที่ดีได้ เลือกใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีการผลิต VCI ของ GreenVCI เพื่อการปกป้องการกัดกร่อน และมุ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานของคุณยังคงทนทานต่อการกัดกร่อน

อ้างอิงข้อมูลจาก https://greenvci.com/erosion-corrosion

GreenVCI : ถุงพลาสติกกันสนิม กับการใช้งานเครื่องสูญญากาศ 

ถุงพลาสติกกันสนิม หรือ VCI Bag (Volatile Corrosion Inhibitor) เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการเกิดสนิมบนผิวโลหะ โดยสาร VCI ที่อยู่ในเนื้อถุงจะค่อย ๆ ระเหยออกมาเคลือบผิวชิ้นงาน ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันไม่ให้ออกซิเจนและความชื้นสัมผัสกับโลหะโดยตรง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันกันสนิม และไม่ต้องเสียเวลาเช็ดทำความสะอาดก่อนนำชิ้นงานไปใช้งานต่อ

Continue reading GreenVCI : ถุงพลาสติกกันสนิม กับการใช้งานเครื่องสูญญากาศ 

GreenVCI : การจัดเก็บ Disc Brake ให้ปลอดสนิมด้วย VCI Paper

Disc Brake เป็นชิ้นส่วนสำคัญของระบบเบรกที่ผลิตจากโลหะ ซึ่งมีความไวต่อความชื้นและอากาศ การจัดเก็บที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดสนิม ส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานและความปลอดภัยของรถยนต์ วิธีการที่นิยมและได้ผลคือการใช้ VCI Paper หรือกระดาษกันสนิมในการจัดเก็บ

Continue reading GreenVCI : การจัดเก็บ Disc Brake ให้ปลอดสนิมด้วย VCI Paper

GreenVCI : การเก็บรักษาม้วนเหล็กคอยล์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความเสียหายและสนิม

การเก็บรักษาม้วนเหล็กคอยล์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความเสียหายและสนิม

ม้วนเหล็กคอยล์ (Steel Coil) เป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ ซึ่งถูกนำไปใช้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า และงานโครงสร้างต่าง ๆ จุดสำคัญที่ผู้ผลิตและผู้ใช้งานต้องให้ความใส่ใจ คือ การจัดเก็บและป้องกันการเกิดสนิม เพราะหากม้วนเหล็กคอยล์เกิดการกัดกร่อน จะสร้างความเสียหายทั้งในด้านคุณภาพและต้นทุนการผลิต

Continue reading GreenVCI : การเก็บรักษาม้วนเหล็กคอยล์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความเสียหายและสนิม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save